วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ปรามศิษย์ดื้อ

 

ปรามศิษย์ดื้อ


เนื่องในวาระครบ ๕ รอบ สิริอายุครบ ๖๐ ปี ของท่านครูบากฤษณะ อินทวัณโณ ในวันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ ๒๕๕๗

ผมขอนำเกล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้ยินมาเกี่ยวประวัติบางช่วงบางตอนของท่านมาเผยแพร่เพื่อเป็นอนุสรณ์ โดยเฉพาะเรื่องราวที่พิศดารที่เกิดขึ้นกับท่านครูบา ฯ เมื่อคราวที่ท่านเดินธุดงค์อยู่ตามป่าเขา ถ้ำลึก หน้าผาสูงชัน

จึงมีเรื่องมากมายที่ท่านครูบา ฯ ได้ประสพพบเจอกับตัวท่านเอง ดังเช่น.:- เรื่องที่ผมได้เล่าไปบ้างแล้ว เป็นต้น

วันนี้ผมจะเล่าเรื่องราวที่พิสดาร มหัศจรรย์พันลึก ลี้ลับ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ เป็นยิ่งนัก

เรื่องที่ผมจะเล่าในวันนี้คือเรื่อง... “ปรามศิษย์ดื้อ” เรื่องราวจะเป็นเช่นไร พิศดาร มากน้อยแค่ไหน โปรดติดตาม

ช่วงปลายของการธุดงค์จาริกไปตามป่าเขาของท่านครูบา ฯ ก่อนที่ท่านจะตั้งสำนักสงฆ์ป่ามหาวัน ครบุรี เป็นช่วงเวลาที่กระแสการปฏิบัติธรรมและเข้าปริวาสของพระภิกษุกำลังมาแรง ญาติโยมก็ชื่นชอบศรัทธาไปตามกระแสเป็นจำนวนมาก
พระสหธรรมมิกของท่านรูปหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในเขต อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นอีกสำนักหนึ่งที่ได้รับความศรัทธาจากสาธุชนทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงและห่างใกล ได้นำลูกหลานมาบวชเป็นพระในสำนักสงฆ์แห่งนี้ หรือบวชมาจากที่อื่นแต่มามอบตัวขอเป็นพระลูกศิษย์จำพรรษาอยู่ด้วยก็มาก เจ้าสำนักแห่งนี้คือพระอาจารย์ประสิทธิ์ ( ปัจจุบันลาสิกขาบทแล้ว )

เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ท่านครูบา ฯ มักจะแวะเวียนไปมาหาสู่อยู่เสมอ ๆ

และที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เองที่ผมได้รู้จักกับท่านครูบา ฯ โดยผ่านทางบิดา และ น้องชายของผมเอง ซึ่งเคารพนับถือท่านครูบา ฯ มาก

ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้จะจัดให้มีงานเข้าปริวาสกรรม เป็นประจำทุกปี ( คำว่า ปริวาส นี้มีมาแต่สมัยพุทธกาล เป็นชื่อของสังฆกรรมประเภทหนึ่ง ที่สงฆ์จะพึงกระทำ เพื่อการอยู่ชดใช้ เรียกสามัญว่า “การอยู่กรรม” เรียกรวมกันว่า “ปริวาสกรรม” เป็นระเบียบปฏิบัติสำหรับ ภิกษุที่ต้องอาบัติ )

ท่านครูบา ฯ ได้รับการนิมนต์จากพระอาจารย์ประสิทธิ์ ให้เป็นพระอาจารย์กรรม (พระพี่เลี้ยง) ของพระภิกษุที่มาเข้าปริวาสกรรม เป็นประจำทุกปีเช่นกันไม่ได้ขาด

ท่านครูบา ฯ ซึ่งเป็นพระผู้แตกฉานในพระไตรปิฎกเป็นอย่างยิ่ง และท่านยังเป็นพระผู้ปฏบัติธรรมอยู่ตามป่าเขามานาน ท่านจึงได้รับการมอบหมายให้เป็นพระอาจารย์กรรม รับหน้าที่เทศนาอบรมสั่งสอนพระภิกษุที่อยู่ปริวาสกรรม จนพระภิกษุที่มาเข้าปริวาสกรรม เกิดศรัทธาเลื่อมใสในตัวท่าน พากันมอบตัวของเป็นศิษย์ท่านหลายรูป ซึ่งก็มีพระน้องชายของผมรวมอยู่ด้วยรูปหนึ่ง

อีกประการหนึ่ง เหตุที่ท่านครูบา ฯ ได้รับความสนใจจากพระภิกษุที่มาเข้าปริวาสกรรม กระทั่งขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เพราะท่านมีบุคลิกดูเคร่งขรึม อีกทั้งยังมีรอยสักยันต์เต็มตัวไปหมด ดูน่าเกรงขาม และพอรู้มาบ้างว่าท่านครูบา ฯ มีวิชาอาคมที่แก่กล้า เป็นที่ยอมรับของพระสหธรรมมิกที่เป็นอาจารย์ของพระภิกษุเหล่านั้น

เหตุการณ์ที่ผมจะเล่าเกิดขึ้นเมื่อคราวท่านครูบา ฯ นำพาพระลูกศิษย์เดินธุดงค์เข้าไปปฏิบัติธรรมในป่ากลางเขาใหญ่ อันเป็นสถานที่คุ้นเคยของท่าน

เมื่อเข้าไปอยู่ในป่าลึก พระลูกศิษย์ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการอยู่ป่า ก็จะมีอาการหวาดกลัวต่าง ๆ นานา และบางครั้งก็มีอาการคึกคะนอง สร้างปัญหาสร้างความหนักใจให้ท่านครูบา ฯ อยู่บ่อยครั้ง

การนำพาพระลูกศิษย์ในการปฏิบัติธรรมของท่านครูบา ฯ ท่านจะไม่สอนว่าให้ทำอย่างโน้นให้ปฏิบัติอย่างนี้ แต่ท่านจะปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่างโดยไม่บอกให้พระลูกศิษย์รู้ตัวว่าท่านกำลังสอนการปฏิบัติธรรม ต้องดูเอาเอง ต้องปฏิบัติตามเอาเอง ทำให้พระลูกศิษย์คิดลองของด้วยการแสดงออกที่ดูไม่เหมาะสม ใช้คำพูดคำจาที่ไม่สมควร เหมือนจะไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวครูบา อาจารย์ ที่นำพามาอยู่กลางป่าเขา

วันหนึ่ง ท่านได้บอกให้พระลูกศิษย์รูปหนึ่งไปตัดต้นไผ่ลำไม่โตนักมาให้ท่านหนึ่งลำ พระลูกศิษย์รุปนั้นหายไปสักครู่ก็ได้ต้นไผ่มาถวายท่านหนึ่งลำ ยาวประมาณวากว่า ๆ

ท่านครูบา ฯ รับต้นไผ่มาจากพระลูกศิษย์รูปนั้นแล้ว ท่านก็บอกให้พระลูกศิษย์ทุกรูปที่นั่งอยู่รวมกันว่า ...” พวกท่านคอยดูนะ ”

พอท่านพูดจบ ท่านลุกยืนขึ้น แล้วหลับตายืนบริกรรมคาถาอยู่พักหนึ่ง

พระลูกศิษย์ต่างพากันนิ่งเงียบ เพราะไม่รู้ว่าท่านครูบา ฯ จะทำอะไรต่อไปนั้นเอง

ท่านครูบา ฯ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เดินก้าวไปข้างหน้า ยืนด้วยท่าทางที่มั่นคง หันหน้าไปทางต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ข้างหน้า มือขวาจับลำไผ่ไว้ในมือแน่น ในท่าเหมือนทหารโบราณเตรียมจะพุ่งหอกออกไปจากมือ

ท่านครูบา ฯ ยกลำไผ่ขึ้นในท่าทหารพุ่งหอก และพุ่งลำไผ่ออกไปจากมือทันที

ลำไผ่พุ่งตรงไปยังต้นไม้ไหญ่ต้นนั้น และเสียบเข้าไปในต้นไม้ใหญ่ ลำไผ่ยาวเป็นวาเสียบหายเข้าไปเกือบครึ่งหนึ่ง

พระลูกศิษย์พากันตกตะลึงพึงเพิด อยู่พักหนึ่ง

ท่านครูบา ฯ บอกให้พระลูกศิษย์รูปหนึ่งเดินไปดึงลำไผ่ที่ฝังอยู่กับต้นไม้ใหญ่มาให้ท่าน

พระลูกศิษย์รูปนั้นเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ แล้วใช้สองมือดึงลำไผ่เต็มแรง

แต่...ออกแรงเท่าไรพระลูกศิษย์รูปนั้นก็ดึงลำไผ่ลำนั้นออกจากต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นไม่ได้

ท่านครูบา ฯ บอกให้พระลูกศิษย์รูปอื่น ลองไปดึงดูบ้าง

พระลูกศิษย์ต่างพากันดึงลำไผ่ลำนั้นออกจากต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นจนครบทุกรูป ลำไผ่ลำนั้นก็ยังเสียบติดอยู่กับต้นไม้ใหญ่เหมือนเดิม

พระลูกศิษย์เหล่านั้นหมดหนทางที่จะดึงลำไผ่ออกมาจากต้นไม้ใหญ่ตั้นนั้นได้ ต่างพากันออกปากยอมแพ้ท่านครูบา ฯ แต่โดยดี

เหตุการณ์นี้เป็นผลให้ท่านครูบา ฯ ได้รับการยอมรับจากพระลูกศิษย์โดยไร้ข้อกังขา ต่างพากันเคารพกราบไหว้ด้วยความสนิทใจ และพากันนำเหตุการณ์ครั้งโจทย์ขาน ต่อ ๆ กันไป จนเป็นที่เรื่องลือในหมู่พระลูกศิษย์และลูกศิษย์ลูกหาในรุ่นต่อ ๆ มา

ผมนำเรื่องนี้มาเล่าเพื่อเป็นย้ำว่า ท่านครูบา ฯ ท่านมีเมตตากับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา เมื่อมีปัญหา หรือเหตุอึดอัดใจประการใด ท่านจะมีวิธีแก้ไขปัญหานั้น ๆ เสมอ เชื่อว่าศิษย์หลายท่านคงได้ประสพการณ์กับตัวท่านเองบ้าง ไม่มากก็น้อย สาธุ



๙๙๙๙๙๙๙๙๙
ชมรมศิษย์ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ
ติดต่อ เฮียกิตติ
081 813 1935
Email : bantanthai@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น