วัตถุมงคลของครูบากฤษณะ
ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ อุปสมบทเมื่อวันที่
27 ตุลาคม 2522
ณ พัทธสีมา วัดโคกอู่ทอง
ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตะคาม
จ.ปราจีนบุรี
พระครูธรรมรงโพธิเขต
เจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฝั้น
ชุตินทโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ กลมวิมโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์
และได้รับนามฉายาว่า " อินทวัณโณ "
ภายหลังที่ครูบาฯท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว
ด้วยอุปนิสัยที่รักการศึกษาหาความรู้ ท่านได้สนใจศึกษาพระปริยัติธรรม
ทั้งจากพระไตรปิฎก และจากครูบาอาจารย์ ต่าง ๆ จนจิตใจมั่นคงด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า
ท่านจึงได้จาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร
เพื่อเจริญจิตบำเพ็ญภาวนาโดยถือธุดงค์วัตรอย่างเคร่งครัด ยอมมอบกายถวายชีวิตแด่
พระพุทธศาสนาตลอดมา และพักจำพรรษา ไปตามป่าเขา
ถ้ำต่าง ๆ
และเพิงหินตามหน้าผาสูงชัน แห่งละหนึ่งพรรษาบ้าง
สองพรรษาบ้าง ตามเห็นสมควร
ครูบาฯท่านได้จาริกไปตามลำพังในป่าเขาดงดิบ
เทือกเขาใหญ่ตลอดแนวภาคอีสานได้ข้ามกลับไปยัง ภูเขาควาย
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อศึกษาเพิ่มเติมวิชาอาคมต่างๆ ต่อจากนั้น
จึงได้ผ่านไปยังประเทศเขมร และ กลับเข้าประเทศไทย
ทางด้านจังหวัดจันทบุรี และธุดงค์ผ่านมาทาง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ได้พบกับโยมล้นและโยมลอย เลิศล้ำ
ซึ่งภายหลังได้นับถือกันฉันท์ บิดา มารดา และบุตร จวบจนกระทั้งสองถึงแก่กรรมจากไป และอัฐิส่วนหนึ่งของโยมทั้งสอง ครูบาฯได้นำมาบรรจุไว้ในก้นหอยที่หน้าจั่วอาคาร ที่ครูบาฯพักอยู่ในปัจจุบัน
( ที่กล่าวถึงคุณพ่อล้นคุณแม่ลอย เลิศล้ำ
ก็เพราะเป็นบิดา และ มารดา ของผู้เขียนบันทึกนี้ )
ในปีพ.ศ. 2532 ครูบาฯท่านได้ธุดงค์มาจำพรรษาที่ป่าบริเวณเทือกเขาจอมทอง
เหนือเขื่อนมูลบน ใกล้กับหมู่บ้านคลองยาง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
ครูบาฯท่านได้เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ ชื่อว่าสำนักสงฆ์ป่ามหาวัน และได้รับการจดทะเบียนเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายในเวลาต่อมาชื่อว่าวัดป่ามหาวัน เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป
ได้จัดพิธีเข้าปริวาสกรรมของพระภิกษุ
และการบวชชีพราหมณ์ของฆราวาสทั้งชายและหญิง
ต่อเนื่องกันมา
จนเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของทั้งพระภิกษุและฆราวาสเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ
และมีผู้มอบกายถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของครูบามากมายนับจำนวนไม่ถ้วน
จากการที่ครูบาฯเองก็เป็นศิษย์ผู้มีครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะปู่ฤาษีที่ครูบามักกล่าวถึงบ่อย ๆ
และจะพนมมือยกขึ้นไหว้ทุกครั้งที่ท่านได้กล่าวถึง
อีกทั้งยังมีลูกศิษย์เป็นกลุ่มก้อน
ที่คอยเฝ้าติดตามและปฏิบัติดูแลท่านมากมายเพิ่มขึ้น
ครูบาจึงได้ดำริให้มีการจัดงานไหว้ครูขึ้น
ณ.ที่วัดป่ามหาวัน เป็นครั้งแรก
และ ณ.วัดป่ามหาวัน นี้เอง
ครูบาฯท่านได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลของท่านขึ้นมาเป็นครั้งแรก เพื่อใช้เป็นเครื่องนำไปสู่การสวดมนต์ภาวนา
และเป็นการทบทวนมนต์คาถาที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนมา ในทุก ๆ วัน
เป็นกิจวัตร์ประจำวันของท่านเลยทีเดียว
พระพิมพ์สมเด็จ
สร้างโดย
ครูบากฤษณะ
อินทวัณโณ
(
นับเป็นวัตถุมงคลชิ้นแรกที่ครูบาฯ สร้าง )
องค์นี้เจ้าของรักและหวงมาก
เผยโฉมให้ท่านได้ชม ณ.ที่นี่ เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๖
รูปแบบเหมือนพระสมเด็จ ( ตามรูป ) เนื้อดินผสมผงว่านและผงมงคลต่าง ๆ เคลือบเงาด้วยเครื่องเคลือบ เสร็จแล้วนำไปแปะติดไว้ที่กรอบรูปถ่ายของท่าน โดยรอบกรอบรูปภาพนั้น ตั้งไว้ตั้งไว้ที่โต๊ะบูชาเพ่งจิตพิจารณาในระหว่างการสวดมนต์ภาวนาโดยเฉพาะ " มนต์ธีรญาณ " อันเร้นลับตลอดหนึ่งพรรษา
เมื่อออกพรรษาฯ
ยามใดที่มีผู้ที่เคารพนับถือและอุปถัมภ์ อุปฐาก ท่านมาต่อเนื่อง มาหาท่าน ๆ ก็จะยกกรอบรูปมาให้ดู
และบอกให้แกะพระสมเด็จที่ท่านสร้าง ที่แปะติดอยู่รอบกรอบรูปนั้นคนละองค์สององค์
เนื่องจากเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรก ยังไม่มีผู้คนรู้จักและนิยม และสร้างเพียงไม่กี่องค์ จึงไม่มีการกล่าวถึงกันในวงการ นอกจากลูกศิษย์ใกล้ชิดในยุคนั้นเท่านั้นที่จะทราบเรื่องวัตถุมงคลของครูบาฯรุ่นแรกนี้
ต่อมาท่านครูบาฯเห็นว่าเป็นการไม่สมควรและเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่จะนำเอารูปจำลองของพระพุทธเจ้า
ที่ท่านครูบาฯเองและพุทธศาสนิกชนทั้งหลายบูชาเคารพกราบไหว้ มาสร้างเป็นวัตถุมงคล ซึ่งเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ เป็นเรื่องของเวทย์มนต์คาถา
ประกอบด้วยยันต์พิธีที่พระพุทธองค์ไม่ทรงส่งเสริม ซึ่งครูบาฯท่านก็ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี และตระหนักในเรื่องนี้อยู่เสมอ
ท่านจึงได้ออกแบบวัตถุมงคลแบบใหม่ ตามแนวคิดของท่านเอง
และเป็นแบบวัตถุมงคลที่ไม่ซ้ำแบบหรือไม่เหมือนวัตถุมงคลของพระเกจิองค์ใด และสามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่
ซึ่งแบบใหม่ที่ได้มาตามจินตนาการของท่านก็คือ
" สาริกาคู่ " เป็นรูปนกสาริกาสองตัวหันหน้าเข้าหากัน
ท่านแกะแบบแม่พิมพ์เอง
รวบรวมผงมงคลต่าง ๆ เอง
และกดพิมพ์ออกมาเป็นวัตถุมงคลด้วยองค์ท่านเอง และทุกองค์จะมีลายนิ้วมือของครูบาฯติดอยู่เสมอ
ทันที่วัตถุมงคลรุ่น
" สาริกาคู่ " ได้แจกจ่ายออกไปให้กับลูกศิษย์และผู้ที่เดินทางมาเคารพกราบไหว้ ก็เริ่มได้รับความเชื่อถือศรัทธาอย่างรวดเร็ว และมีการกล่าวขานถึงความมีคุณที่พิเศษไปต่าง ๆ
น่า ๆ โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม
ควบคู่กับการสร้าง " สาริกาคู่ " ครูบาฯก็ยังทำสีผี้งมหานิยม กลิ่นหมอหวนรัญจวนใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ " การสักยันต์และการจานด้วยเหล็กแหลมแล้วลงน้ำมัน "
" การสักยันต์และการจานด้วยเหล็กแหลมแล้วลงน้ำมัน "
ก็เป็นเวทย์ศาสตร์อีกแขนงหนึ่งที่ครูบาฯได้ศึกษาฯและค้นคว้ามาอย่างชำนาญ สุขุมรุ่มลึก
แฝงไปด้วยศิลปะที่อ่อนช้อยสวยงาม
แต่มากไปด้วยมนต์ขลัง
และอักขระที่ไม่เหมือนใครในโลกแห่งเวทย์ศาสตร์ คือ..." อัขระเทวนาคี " ที่ลึกลับ
๙๙๙๙๙๙๙๙๙
ปล.ข้อมูลที่นำมาเขียนในบันทึกนี้ ได้ประสบมาโดยผู้เขียนเอง และได้ฟังจากการบอกเล่าของครูบาฯส่วนหนี่ง และได้สืบค้นจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทางอินเตอร์เนทอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์ จึงต้องขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย
๙๙๙๙๙๙๙๙๙
ชมรมศิษย์ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ
ติดต่อ เฮียกิตติ
081 813
1935
Email : bantanthai@gmail.com
ภาคใต้ หาดใหญ่ สงขลา
ติดต่อ เฮียหมี
0887841026
0858921707
0858921707
Email : Nimitgr@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น