วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556

ประวัติ วัตถุมงคลของครูบากฤษณะ อินทวัณโณ



วัตถุมงคลของครูบากฤษณะ
ครูบากฤษณะ  อินทวัณโณ   อุปสมบทเมื่อวันที่  27 ตุลาคม  2522  ณ พัทธสีมา  วัดโคกอู่ทอง  ต.โพธิ์งาม  อ.ประจันตะคาม  จ.ปราจีนบุรี
พระครูธรรมรงโพธิเขต เจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฝั้น ชุตินทโร   เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ กลมวิมโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และได้รับนามฉายาว่า " อินทวัณโณ "
ภายหลังที่ครูบาฯท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ด้วยอุปนิสัยที่รักการศึกษาหาความรู้ ท่านได้สนใจศึกษาพระปริยัติธรรม ทั้งจากพระไตรปิฎก และจากครูบาอาจารย์ ต่าง ๆ จนจิตใจมั่นคงด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ท่านจึงได้จาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อเจริญจิตบำเพ็ญภาวนาโดยถือธุดงค์วัตรอย่างเคร่งครัด ยอมมอบกายถวายชีวิตแด่ พระพุทธศาสนาตลอดมา  และพักจำพรรษา  ไปตามป่าเขา  ถ้ำต่าง ๆ  และเพิงหินตามหน้าผาสูงชัน  แห่งละหนึ่งพรรษาบ้าง สองพรรษาบ้าง ตามเห็นสมควร
ครูบาฯท่านได้จาริกไปตามลำพังในป่าเขาดงดิบ เทือกเขาใหญ่ตลอดแนวภาคอีสานได้ข้ามกลับไปยัง ภูเขาควาย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อศึกษาเพิ่มเติมวิชาอาคมต่างๆ ต่อจากนั้น จึงได้ผ่านไปยังประเทศเขมร และ  กลับเข้าประเทศไทย ทางด้านจังหวัดจันทบุรี  และธุดงค์ผ่านมาทาง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  ได้พบกับโยมล้นและโยมลอย เลิศล้ำ  ซึ่งภายหลังได้นับถือกันฉันท์ บิดา มารดา และบุตร  จวบจนกระทั้งสองถึงแก่กรรมจากไป   และอัฐิส่วนหนึ่งของโยมทั้งสอง  ครูบาฯได้นำมาบรรจุไว้ในก้นหอยที่หน้าจั่วอาคาร  ที่ครูบาฯพักอยู่ในปัจจุบัน
( ที่กล่าวถึงคุณพ่อล้นคุณแม่ลอย  เลิศล้ำ  ก็เพราะเป็นบิดา และ มารดา ของผู้เขียนบันทึกนี้ )
ในปีพ.ศ. 2532 ครูบาฯท่านได้ธุดงค์มาจำพรรษาที่ป่าบริเวณเทือกเขาจอมทอง เหนือเขื่อนมูลบน ใกล้กับหมู่บ้านคลองยาง  อ.ครบุรี  จ.นครราชสีมา
ครูบาฯท่านได้เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์   ชื่อว่าสำนักสงฆ์ป่ามหาวัน  และได้รับการจดทะเบียนเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายในเวลาต่อมาชื่อว่าวัดป่ามหาวัน  เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป  
ได้จัดพิธีเข้าปริวาสกรรมของพระภิกษุ และการบวชชีพราหมณ์ของฆราวาสทั้งชายและหญิง  ต่อเนื่องกันมา  จนเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของทั้งพระภิกษุและฆราวาสเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ 
และมีผู้มอบกายถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของครูบามากมายนับจำนวนไม่ถ้วน
จากการที่ครูบาฯเองก็เป็นศิษย์ผู้มีครูบาอาจารย์  โดยเฉพาะปู่ฤาษีที่ครูบามักกล่าวถึงบ่อย ๆ และจะพนมมือยกขึ้นไหว้ทุกครั้งที่ท่านได้กล่าวถึง  อีกทั้งยังมีลูกศิษย์เป็นกลุ่มก้อน  ที่คอยเฝ้าติดตามและปฏิบัติดูแลท่านมากมายเพิ่มขึ้น
ครูบาจึงได้ดำริให้มีการจัดงานไหว้ครูขึ้น ณ.ที่วัดป่ามหาวัน  เป็นครั้งแรก
และ ณ.วัดป่ามหาวัน  นี้เอง  ครูบาฯท่านได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลของท่านขึ้นมาเป็นครั้งแรก  เพื่อใช้เป็นเครื่องนำไปสู่การสวดมนต์ภาวนา  และเป็นการทบทวนมนต์คาถาที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนมา  ในทุก ๆ วัน  เป็นกิจวัตร์ประจำวันของท่านเลยทีเดียว




พระพิมพ์สมเด็จ
สร้างโดย
ครูบากฤษณะ  อินทวัณโณ
( นับเป็นวัตถุมงคลชิ้นแรกที่ครูบาฯ สร้าง )

  องค์นี้เจ้าของรักและหวงมาก เผยโฉมให้ท่านได้ชม ณ.ที่นี่ เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๖
 
รูปแบบเหมือนพระสมเด็จ ( ตามรูป ) เนื้อดินผสมผงว่านและผงมงคลต่าง ๆ  เคลือบเงาด้วยเครื่องเคลือบ  เสร็จแล้วนำไปแปะติดไว้ที่กรอบรูปถ่ายของท่าน  โดยรอบกรอบรูปภาพนั้น   ตั้งไว้ตั้งไว้ที่โต๊ะบูชาเพ่งจิตพิจารณาในระหว่างการสวดมนต์ภาวนาโดยเฉพาะ "  มนต์ธีรญาณ " อันเร้นลับตลอดหนึ่งพรรษา 
เมื่อออกพรรษาฯ ยามใดที่มีผู้ที่เคารพนับถือและอุปถัมภ์ อุปฐาก ท่านมาต่อเนื่อง  มาหาท่าน ๆ  ก็จะยกกรอบรูปมาให้ดู  และบอกให้แกะพระสมเด็จที่ท่านสร้าง  ที่แปะติดอยู่รอบกรอบรูปนั้นคนละองค์สององค์
เนื่องจากเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรก  ยังไม่มีผู้คนรู้จักและนิยม  และสร้างเพียงไม่กี่องค์  จึงไม่มีการกล่าวถึงกันในวงการ  นอกจากลูกศิษย์ใกล้ชิดในยุคนั้นเท่านั้นที่จะทราบเรื่องวัตถุมงคลของครูบาฯรุ่นแรกนี้
ต่อมาท่านครูบาฯเห็นว่าเป็นการไม่สมควรและเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง  ที่จะนำเอารูปจำลองของพระพุทธเจ้า  ที่ท่านครูบาฯเองและพุทธศาสนิกชนทั้งหลายบูชาเคารพกราบไหว้  มาสร้างเป็นวัตถุมงคล  ซึ่งเป็นเรื่องของไสยศาสตร์  เป็นเรื่องของเวทย์มนต์คาถา  ประกอบด้วยยันต์พิธีที่พระพุทธองค์ไม่ทรงส่งเสริม  ซึ่งครูบาฯท่านก็ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี   และตระหนักในเรื่องนี้อยู่เสมอ

 




ท่านจึงได้ออกแบบวัตถุมงคลแบบใหม่  ตามแนวคิดของท่านเอง และเป็นแบบวัตถุมงคลที่ไม่ซ้ำแบบหรือไม่เหมือนวัตถุมงคลของพระเกจิองค์ใด   และสามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่
ซึ่งแบบใหม่ที่ได้มาตามจินตนาการของท่านก็คือ " สาริกาคู่ "  เป็นรูปนกสาริกาสองตัวหันหน้าเข้าหากัน   ท่านแกะแบบแม่พิมพ์เอง  รวบรวมผงมงคลต่าง ๆ เอง  และกดพิมพ์ออกมาเป็นวัตถุมงคลด้วยองค์ท่านเอง  และทุกองค์จะมีลายนิ้วมือของครูบาฯติดอยู่เสมอ
ทันที่วัตถุมงคลรุ่น " สาริกาคู่ "  ได้แจกจ่ายออกไปให้กับลูกศิษย์และผู้ที่เดินทางมาเคารพกราบไหว้  ก็เริ่มได้รับความเชื่อถือศรัทธาอย่างรวดเร็ว   และมีการกล่าวขานถึงความมีคุณที่พิเศษไปต่าง ๆ น่า ๆ  โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม
ควบคู่กับการสร้าง " สาริกาคู่ " ครูบาฯก็ยังทำสีผี้งมหานิยม  กลิ่นหมอหวนรัญจวนใจ  และที่ขาดไม่ได้ก็คือ " การสักยันต์และการจานด้วยเหล็กแหลมแล้วลงน้ำมัน "
" การสักยันต์และการจานด้วยเหล็กแหลมแล้วลงน้ำมัน "   ก็เป็นเวทย์ศาสตร์อีกแขนงหนึ่งที่ครูบาฯได้ศึกษาฯและค้นคว้ามาอย่างชำนาญ  สุขุมรุ่มลึก  แฝงไปด้วยศิลปะที่อ่อนช้อยสวยงาม  แต่มากไปด้วยมนต์ขลัง  และอักขระที่ไม่เหมือนใครในโลกแห่งเวทย์ศาสตร์  คือ..." อัขระเทวนาคี "  ที่ลึกลับ
๙๙๙๙๙๙๙๙๙
ปล.ข้อมูลที่นำมาเขียนในบันทึกนี้ ได้ประสบมาโดยผู้เขียนเอง  และได้ฟังจากการบอกเล่าของครูบาฯส่วนหนี่ง   และได้สืบค้นจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทางอินเตอร์เนทอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์  จึงต้องขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย
๙๙๙๙๙๙๙๙๙
 ชมรมศิษย์ครูบากฤษณะ  อินทวัณโณ
ติดต่อ  เฮียกิตติ
081 813 1935 
Email : bantanthai@gmail.com

  ภาคใต้  หาดใหญ่  สงขลา
ติดต่อ  เฮียหมี
0887841026
0858921707
Email : Nimitgr@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น